- "สนามแข่งหนู" กลายเป็นวลีเรียกขานสถานการณ์ของการดิ้นรนทางการเงิน ของบรรดา "ลูกจ้าง" (ซึ่งไม่มีวันรวย) ได้อย่างสะใจ และดูเหมือนจะเป็นที่ "รู้กัน" ของบรรดาแฟนพันธุ์แท้ "พ่อรวยสอนลูก" ซึ่งเปรียบวังวนแห่งการเป็นลูกจ้างเหมือนสาละวนวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายด้วยอาการตะเกียกตะกายของ"หนู" เพื่อหาหนทางหลุดพ้นความคับข้องใจจากการทำงานรับเงินเดือนไปวันๆ
- หนีให้พ้นจาก สนามแข่งหนู หรือหลุดออกจากการ "อยู่ได้" ด้วยเงินเดือนประจำ จากการเป็นลูกจ้าง (ตลอดชาติ) เพื่อก้าวสู่ทางด่วนของการลงทุน จึงเป็นเป้าหมายแรกของ "คนอยากรวย" ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นตามคอนเซ็ปท์หนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ และ ชารอน เลคเตอร์
- ในการเรียนรู้ว่า "เงิน 4 ด้าน" ตามความหมายที่คุณโรเบิร์ต และคุณชารอน บอกไว้ในหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" นั้นคืออะไร และยังเป็นเครื่องมือในการสอนให้ผู้เล่นรู้จัก การทำบัญชีส่วนตัว รู้ซึ้งถึงคำว่า หนี้สิน และ ทรัพย์สิน และวิธี "ทำเงิน" แบบคนรวย
- "คนรวย ไม่ได้ ทำงานเพื่อเงิน แต่ใช้เงินทำงาน" นี่คือคำสอนของ พ่อรวย และ ทำไมต้องออกจาก "สนามแข่งหนู" ก่อนไปขึ้น "ทางด่วน"
- "พ่อรวย" ของ คิโยซากิ บอกว่า "คนไม่มีทรัพย์สิน....ไม่มีวันพรุ่งนี้" ...แน่นอนว่าหากคุณไม่ยอมเจียดเงินที่มีอยู่เพื่อไปสร้างสินทรัพย์ในระยะยาว รายได้จากสินทรัพย์ก็ย่อมไม่เกิด รอรับรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว คำตอบก็คือคุณไม่มีวันก้าวขึ้น "ทางด่วน"
- พ่อรวยสอนว่า "ต้องหา รายได้จากทรัพย์สิน ซึ่งต้องเริ่มต้นด้วยการใช้เวลาสร้างทรัพย์สิน และเพิ่ม รายได้จากทรัพย์สิน เช่น กำไร เงินปันผล หรือ รายได้ในระยะยาว"
- นี่คือเส้นทาง "ทำเงิน" ของเศรษฐี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหลักคิดเรื่อง "เงินสี่ด้าน"
- พ่อรวย บอกว่าในโลกนี้มีคน 4 ประเภท ถ้าเราทำงานกินเงินเดือน เราก็เป็น ลูกจ้าง หรือ E- Employee ถ้าเรามีธุรกิจส่วนตัวแต่ต้องทำเองเกือบทั้งหมด เราก็อยูในกลุ่ม S-Self Employed ถ้ารายได้มาจากการลงทุน เราก็คือ "นักลงทุน" I-Investor และถ้ารายได้เกิดจากการเป็น เจ้าของกิจการ ก็คือกลุ่ม B-Business Owner
- เขาบอกว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของ เงินสี่ด้าน ขึ้นอยู่กับว่าเงินของเรามาจากไหน และในคนหนึ่งๆ อาจจะเป็นได้หลายชนิด
- "พ่อรวย"บอกว่าทั้ง 4 ด้านสามารถก้าวสู่ความเป็น อิสระทางการเงิน ได้ทั้งสิ้น แต่ความรู้ความชำนาญจากการเป็น "เจ้าของกิจการ " และ "นักลงทุน" จะช่วยให้คุณก้าวสู่เป้าหมายเร็วขึ้น
- ในโลกสี่แบบของคนสี่ประเภท "พ่อรวย" บอกว่า เพียงแค่รายได้จากการเป็น ลูกจ้าง หรือ ทำ ธุรกิจส่วนตัว เล็กๆ ซึ่งคุณต้องลงแรงเองนั้นไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับคนที่ต้องก้าวสู่ อิสรภาพทางการเงิน คุณต้องฉลาดกว่านั้น ซึ่งก็คือก้าวไปสู่การเป็น เจ้าของกิจการ หรือ นักลงทุน เพื่อที่จะ "ใช้เงินทำงาน" แทนตัวคุณ
- กุญแจสำคัญที่ทำให้ทุกคนออกจาก "สนามแข่งหนู" ได้ ไม่ใช่ "เงินบนหน้าตัก" ที่อาจได้มาเพราะโชคช่วย หรือ ลงทุนถูกต้องถูกตัว แต่รายได้ที่เข้ามาต้องสม่ำเสมอจนครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อเดือนต่างหาก ที่จะบอกว่าคุณหลุดพ้น สนามแข่งหนู เพื่อไปตามล่าหาฝันบน "ทางด่วน" ได้ จากนั้นก็ต้องต่อสู้กับสถานการณ์ ด้วยไหวพริบ และ ความฉลาดในการจัดการเงินทอง
- ถ้าอ้างอิงจาก พ่อรวยสอนลูก ก็ต้องใช้คำว่า "เงินมองไม่เห็นด้วยสายตา แต่เห็นจากสมอง" อย่าดูที่ทรัพย์สิน เช่น บ้าน อสังหา แต่ต้องเห็นไปถึง โอกาสในการสร้างรายได้ของมัน หรืออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของมัน
- พ่อรวย บอกว่า เงินเป็นเพียงความคิด และถ้าเราอยู่ในเกม ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเล่น เกมการเงิน ที่ถูกต้อง
- จะเริ่มต้นอย่างไรดี ...เรื่องนี้ พ่อรวย บอกว่า "อย่าผลีผลาม" สองขาดีกว่าขาเดียว นอกจากจะเป็น ลูกจ้าง หรือคนทำ ธุรกิจส่วนตัว แล้ว เราควรต้องเริ่มต้นศึกษารู้เรื่องการลงทุน และการเป็น เจ้าของกิจการ เพิ่มขึ้นด้วย อย่าผลีผลามกระโดดจากการเป็น ลูกจ้าง ไปทำ ธุรกิจส่วนตัว เพราะมีความเสี่ยงมาก
- "พ่อรวย" บอกว่าต้องเริ่มต้นจาก "ก้าวเด็ก"
เช่น ก็ต้องทำงานกินเงินเดือนไปด้วย และลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ กองทุนรวม หรือ ซื้อ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนไปพร้อมๆ กัน - หลักเบื้องต้นก็คือถ้าคุณยังมีเงินสดในมือไม่มาก ก็ควรเริ่มต้นจาก "โอกาสเล็ก" เพื่อรอเวลาสั่งสม และพัฒนา ความฉลาดทางการเงิน ของตัวเองขึ้นมา
- หลุดจาก สนามแข่งหนู คือเป้าหมายแรก .....เมื่อคุณสร้างสินทรัพย์จนทำให้รายได้จากสินทรัพย์ที่มี ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้เมื่อไร แสดงว่าคุณพร้อมที่จะขึ้น "ทางด่วน"
- ตรงทางด่วนนี่เอง...ที่ผู้เล่นจะสามารถลงทุนใน กิจการส่วนตัว ได้ และปัจจัยสู่ความสำเร็จที่สำคัญของ การเล่นในวงนอกก็คือ ความสามารถในการควบคุม "กระแสเงินสด" ซึ่งจะนำไปสู่ ชัยชนะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น